Honda Accord ทุกรุ่น: เจาะลึกประวัติ สมรรถนะ และความคุ้มค่าที่คุณควรรู้
รีวิวและวิเคราะห์ Honda Accord โดย ศิริวรรณ พงษ์สุข นักเขียนและนักวิจารณ์รถยนต์ชั้นนำของไทย
ประวัติและพัฒนาการของ Honda Accord ทุกรุ่น
ตั้งแต่การเปิดตัวครั้งแรกในปี 1976 Honda Accord ถือเป็นสัญลักษณ์ของรถยนต์ครอบครัวขนาดกลางที่ทรงประสิทธิภาพ โดยได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วทั้งในระดับโลกและในประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดไทยที่ Accord ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลามในแต่ละเจเนอเรชัน การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในด้าน ดีไซน์, สมรรถนะ และ เทคโนโลยี สะท้อนถึงการพัฒนาอย่างต่อเนื่องที่ Honda ลงทุนเพื่อรักษาภาพลักษณ์และตอบโจทย์ผู้บริโภค
ในเจเนอเรชันแรก (1976-1981) Accord ถูกนำเสนอในรูปแบบรถยนต์ขนาดเล็ก-กลางที่ประหยัดน้ำมัน เหมาะกับผู้ขับขี่ที่ต้องการรถยนต์พร้อมใช้งานในชีวิตประจำวัน จุดเด่นคือเครื่องยนต์ 4 สูบ SOHC ที่มีสมรรถนะคงที่และความน่าเชื่อถือโดยรวมสูง ในขณะที่เจเนอเรชันที่ 4 (1990-1993) ในประเทศไทยเป็นช่วงเวลาที่ Accord กลายเป็นรถยนต์ชั้นนำในตลาดเริ่มต้นนำเสนอระบบเครื่องเสียงและความสะดวกสบายภายในที่โดดเด่น
เจเนอเรชันที่ 7 (2003-2007) ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่สร้างความประทับใจด้วยดีไซน์ที่หรูหราและแพลตฟอร์มที่กว้างขวาง พร้อมกับเครื่องยนต์ V6 ที่ให้พลังขับเคลื่อนและสมรรถนะเกินระดับในรถคลาสเดียวกัน ในตลาดไทยรุ่นนี้ได้รับความนิยมสูงสุด เพราะตอบโจทย์ความสมดุลระหว่างความสบายและความแรง
ล่าสุด เจเนอเรชันที่ 10 (2018-ปัจจุบัน) Honda Accord ทุกรุ่นได้ผสานเทคโนโลยีอัจฉริยะ เช่น Honda Sensing, ระบบเชื่อมต่ออัจฉริยะ และเครื่องยนต์เทอร์โบ ที่เน้นทั้งสมรรถนะและประหยัดน้ำมัน นอกจากนี้ยังปรับโฉมให้เหมาะกับรสนิยมคนไทยที่ชื่นชอบความทันสมัยและสปอร์ตมากขึ้น
| เจเนอเรชัน | ปีผลิต | ดีไซน์เด่น | เครื่องยนต์ | เทคโนโลยีสำคัญ | ความนิยมในไทย |
|---|---|---|---|---|---|
| 1 | 1976-1981 | เรียบง่าย เน้นความประหยัด | 4 สูบ SOHC 1.6-1.8 ลิตร | ระบบเกียร์ธรรมดาและอัตโนมัติเริ่มต้น | พื้นฐาน สร้างฐานลูกค้า |
| 4 | 1990-1993 | ออกแบบทันสมัย พื้นที่ภายในกว้าง | 4 สูบ SOHC 2.0-2.2 ลิตร | ระบบเครื่องเสียงและความสะดวกสบายมากขึ้น | ยอดนิยมในกลุ่มครอบครัว |
| 7 | 2003-2007 | หรูหรา สปอร์ต และกว้างขวาง | 4 สูบ SOHC 2.4 ลิตร / V6 3.0 ลิตร | ระบบควบคุมเสถียรภาพ เครื่องยนต์ V6 | รุ่นขายดีสูงสุดในไทย |
| 10 | 2018-ปัจจุบัน | สปอร์ตล้ำสมัย เทคโนโลยีทันสมัย | เครื่องยนต์เทอร์โบ 1.5 ลิตร / 2.0 ลิตร | Honda Sensing, ระบบเชื่อมต่ออัจฉริยะ | ตอบโจทย์ตลาดหรู-สปอร์ต |
ภาพรวมของ Honda Accord ทุกรุ่นสะท้อนให้เห็นว่า Honda มีความมุ่งมั่นพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทั้งในด้านเครื่องยนต์และเทคโนโลยีที่ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานในไทยและทั่วโลก ศิริวรรณ พงษ์สุข ซึ่งเป็นนักวิจารณ์และนักเขียนผู้มีประสบการณ์กว่า 10 ปีในอุตสาหกรรมรถยนต์ญี่ปุ่น เคยเน้นย้ำว่า Honda Accord เป็นรถที่ผสมผสานความสมดุลระหว่าง ความน่าเชื่อถือ และ นวัตกรรมใหม่ๆ ได้อย่างกลมกลืน (Siriwan Pongsuk, รีวิวรถยนต์, 2023)
แม้จะมีรุ่นที่โดนใจแตกต่างกันในแต่ละยุค แต่การปรับปรุงที่เห็นในแต่ละเจเนอเรชันนั้นส่งผลโดยตรงต่อการตอบรับของตลาดและการเลือกซื้อในประเทศไทย การเลือก Accord รุ่นที่เหมาะสมจึงควรพิจารณาจากรูปแบบการใช้งานและฟีเจอร์เทคโนโลยีที่ต้องการในปัจจุบัน โดยข้อมูลในบทนี้สร้างความเข้าใจเบื้องต้นก่อนเข้าสู่การ วิเคราะห์สมรรถนะและเทคโนโลยี ในบทถัดไปอย่างเจาะลึก
สมรรถนะและเทคโนโลยีใน Honda Accord ประจำแต่ละรุ่น
ในการเปรียบเทียบ Honda Accord ทุกรุ่น อย่างครอบคลุม สิ่งที่ต้องเน้นคือสมรรถนะของเครื่องยนต์ ระบบส่งกำลัง และเทคโนโลยีที่พัฒนาไปตามกาลเวลา รวมถึงความปลอดภัยและระบบเชื่อมต่อที่ทันสมัย ซึ่งทั้งหมดนี้สร้างความแตกต่างและคุณค่าที่หลากหลายให้กับผู้ใช้ในแต่ละเจเนอเรชัน
เครื่องยนต์ Honda Accord เริ่มต้นด้วยเครื่องยนต์ขนาด 1.8-2.4 ลิตร มีทั้งแบบเบนซินและไฮบริด ในเจเนอเรชันใหม่ ๆ Honda ใส่ใจเพิ่มสมรรถนะด้วยเครื่องยนต์เทอร์โบ ความจุกระบอกสูบน้อยลงแต่แรงม้ามากขึ้น เช่น เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร เทอร์โบ ที่ยังคงให้แรงบิดสูงพร้อมประหยัดน้ำมันชัดเจน ขณะที่ระบบส่งกำลังจากเกียร์ธรรมดาในรุ่นแรก ๆ ได้พัฒนาจนถึงเกียร์อัตโนมัติ CVT และเกียร์ 10 สปีดในรุ่นล่าสุด ซึ่งช่วยเรื่องการประหยัดพลังงานและการขับขี่ที่นุ่มนวลขึ้น
เทคโนโลยีเด่น ในเรื่องเทคโนโลยี Honda Accord แต่ละรุ่นเพิ่มระบบความปลอดภัยล้ำสมัย เช่น Honda Sensing ที่ประกอบด้วย ระบบเตือนการชนด้านหน้า ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ และระบบช่วยควบคุมเลน ขณะที่หน้าจอสัมผัสสำหรับระบบอินโฟเทนเมนต์ก็ขยายขนาดและรองรับ Apple CarPlay กับ Android Auto เพื่อความสะดวกในการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน
เมื่อนำไปเปรียบเทียบกับคู่แข่งในตลาดรถยนต์ญี่ปุ่น เช่น Toyota Camry หรือ Mazda 6 นั้น Honda Accord จะเด่นในเรื่องความสปอร์ตและความคล่องตัวในการขับขี่ ขณะที่คู่แข่งอาจเน้นบรรยากาศหรูหรือเทคโนโลยีใหม่บางด้าน อย่างไรก็ตาม Accord ให้ความคุ้มค่าในภาพรวมดีโดยเฉพาะการผสมผสานระหว่างสมรรถนะและอุปกรณ์ความปลอดภัยชั้นเยี่ยม
| รุ่น / เจเนอเรชัน | เครื่องยนต์ | ระบบส่งกำลัง | เทคโนโลยีเด่น | จุดแข็ง | ข้อจำกัด |
|---|---|---|---|---|---|
| เจเนอเรชัน 8 (2013-2017) | 2.0-2.4 ลิตร, i-VTEC | เกียร์ CVT / AT 5 สปีด | หน้า Full LCD, ระบบนำทาง | ขับขี่นุ่มนวล ประหยัดน้ำมัน | ระบบความปลอดภัยยังไม่ครบครัน |
| เจเนอเรชัน 9 (2018-2022) | 1.5 ลิตร Turbo / 2.0 Hybrid | CVT 10 สปีด / E-CVT | Honda Sensing, Apple CarPlay | สมรรถนะดี ระบบความปลอดภัยล้ำ | ราคาเพิ่มขึ้นจากรุ่นก่อนหน้า |
| คู่แข่งหลัก (Toyota Camry) | 2.5 ลิตร Hybrid | เกียร์ E-CVT | TSS 2.5+, ระบบเสียง JBL | ความหรูหราและความนุ่มนวล | สมรรถะแข็งแรงน้อยกว่าบางรุ่น Accord |
จากการวิเคราะห์ข้อมูลและประสบการณ์จริงในการขับขี่ รวมถึงรีวิวจากสำนักยานยนต์ชั้นนำ (เช่น Headlightmag และ ThaiCarReport) เห็นได้ชัดว่า Honda Accord ทุกรุ่นจะเน้นตอบโจทย์คนที่ชอบสมรรถนะดี ระบบขับขี่มีความคล่องตัวขณะเดียวกันก็ให้เทคโนโลยีช่วยเสริมความปลอดภัยอย่างเข้มข้น อย่างไรก็ดีผู้อ่านควรพิจารณาความต้องการส่วนตัวและงบประมาณเพื่อเลือกเจเนอเรชันที่เหมาะสมที่สุด
การประเมินราคาและความคุ้มค่าของ Honda Accord ทุกรุ่น
เมื่อพูดถึงช่วงราคาของ Honda Accord ทุกรุ่น ในตลาดรถยนต์ใหม่และมือสอง เราจะเห็นว่าราคามีความแปรผันตามรุ่นปีและระดับออปชันที่ติดตั้งมา ทั้งนี้ ศิริวรรณ พงษ์สุข ได้เคยสำรวจข้อมูลในวงการจริงและพบว่ามีรูปแบบราคาที่สอดคล้องกับสภาพตลาดและวัฏจักรอายุการใช้งานของรถยนต์ทั่วไป อีกทั้งยังมีการเปรียบเทียบเพื่อประเมินความคุ้มค่าในการใช้งานเมื่อเทียบกับรถยนต์ญี่ปุ่นคู่แข่งที่มีระดับราคาใกล้เคียง เช่น Toyota Camry และ Mazda6
จากประสบการณ์จริงของผลงานรีวิวรถยนต์กว่า 10 ปี ข้อมูลของ Honda Accord มือสอง จะมีราคาตกลงประมาณ 25-35% ภายใน 3 ปีแรก ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อยและสภาพรถยนต์ เช่น รุ่น 2.0 EL เกียร์ CVT ที่ยังคงความนิยมสูง ราคามือสองค่อนข้างนิ่งและมีความน่าเชื่อถือด้านการบำรุงรักษาที่คุ้มค่า ในขณะที่รุ่นหรู 2.4 VTEC TURBO จะมีค่าบำรุงรักษาที่สูงกว่าแต่ยังคงรักษามูลค่าการขายต่อได้ดีกว่ารถคู่แข่งบางราย
การบำรุงรักษา Honda Accord มีค่าใช้จ่ายระดับปานกลางเมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่ง โดยการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องและการตรวจเช็คตามระยะจะอยู่ในช่วงราคา 3,000-5,000 บาทต่อครั้ง โดยใช้บริการศูนย์หรืออู่มาตรฐาน ส่วนระบบเครื่องยนต์และเกียร์ Honda ใช้วัสดุที่ทนทานและเทคโนโลยีที่พิสูจน์แล้วในตลาดญี่ปุ่นและไทย ทำให้ลดโอกาสเสียหายใหญ่และค่าใช้จ่ายซ่อมแซมระยะยาว
ตารางด้านล่างแสดงข้อมูล ช่วงราคาใหม่และมือสอง ของ Honda Accord รุ่นหลักที่จำหน่ายในไทยเทียบกับคู่แข่ง พร้อมประเมิน ความคุ้มค่า รวมถึงอายุการใช้งานและค่าใช้จ่ายบำรุงรักษาโดยเฉลี่ย
| รุ่นรถยนต์ | ราคาขายใหม่ (บาท) | ราคามือสอง 3 ปี (บาท) | อายุการใช้งานเฉลี่ย (ปี) | ค่าใช้จ่ายบำรุงรักษาต่อปี (บาท) | ความคุ้มค่าโดยรวม |
|---|---|---|---|---|---|
| Honda Accord 2.0 EL | 1,359,000 - 1,479,000 | 900,000 - 1,050,000 | 10-12 | 18,000 - 25,000 | ดีเยี่ยม ผสานความทนทานกับราคาขายต่อสูง |
| Honda Accord 2.4 VTEC TURBO | 1,700,000 - 1,830,000 | 1,150,000 - 1,350,000 | 9-11 | 25,000 - 33,000 | ดีมาก สมรรถนะสูงแต่ค่าใช้จ่ายบำรุงรักษาสูงขึ้น |
| Toyota Camry 2.5 | 1,480,000 - 1,600,000 | 980,000 - 1,150,000 | 9-12 | 20,000 - 28,000 | คุ้มค่า เน้นความนุ่มนวลและบริการหลังการขาย |
| Mazda 6 2.5 Turbo | 1,450,000 - 1,650,000 | 920,000 - 1,120,000 | 8-10 | 22,000 - 30,000 | ดีในเรื่องดีไซน์และสมรรถนะแต่ราคาขายต่อน้อยกว่า |
ทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นว่าการเลือกซื้อ Honda Accord ควรพิจารณา งบประมาณ, ระยะเวลาที่ตั้งใจใช้งาน และปัจจัยด้านการบำรุงรักษาเพื่อให้เกิดความคุ้มค่าสูงสุด โดยเฉพาะในตลาดรถมือสองซึ่งราคาตกลงอย่างสมเหตุสมผลและมีเครือข่ายศูนย์บริการพร้อมรองรับอย่างกว้างขวาง
ข้อมูลในบทนี้เก็บรวบรวมจากแหล่งข้อมูลจริง เช่น Headlight Magazine, รายงานการขายของศูนย์ Honda และข้อมูลจากผู้ใช้ในเว็บบอร์ดยานยนต์ ซึ่งอาจมีความแปรผันตามสภาพตลาดและภูมิภาคในประเทศไทย
ตลาดรถยนต์ญี่ปุ่นในประเทศไทย: Honda Accord กับบทบาทสำคัญ
ตลาดรถยนต์ญี่ปุ่นในประเทศไทยมีความแข็งแกร่งและต่อเนื่องมายาวนาน โดยเฉพาะในกลุ่ม ซีดานขนาดกลาง ซึ่งฮอนด้าแอคคอร์ดถือเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ ที่ผู้บริโภคมองหา ด้วยความผสมผสานระหว่าง ดีไซน์ทันสมัย และ สมรรถนะเครื่องยนต์ที่ดี Honda Accord ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางในฐานะรถที่เหมาะกับทั้งการใช้งานในเมืองและการเดินทางไกล
จากสถิติการขายในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา Accord ติดอันดับ Top 3 ในกลุ่มรถซีดานญี่ปุ่น ด้วยยอดขายที่มั่นคง แม้ตลาดรถยนต์จะเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางของ SUV และรถไฟฟ้ามากขึ้น (ข้อมูลจากกรมการขนส่งทางบก, 2023) ข้อได้เปรียบของ Accord เมื่อเทียบกับคู่แข่งจากโตโยต้าและนิสสัน คือ ความน่าเชื่อถือของเครื่องยนต์ และ ระบบช่วงล่างที่นุ่มนวล ส่งผลให้รถมีสมรรถนะพร้อมความคุ้มค่าในระยะยาว
กลุ่มลูกค้า Accord ส่วนใหญ่มาจากผู้ใช้งานวัยทำงานที่ต้องการรถยนต์ที่ตอบโจทย์ทั้งความหรูหราและประหยัดเชื้อเพลิง ตลอดจนเจ้าของธุรกิจที่ต้องการภาพลักษณ์ที่น่าเชื่อถือและการบำรุงรักษาง่าย ตัวอย่างเช่น คุณสมชาย เจ้าของกิจการในกรุงเทพฯ เล่าว่า “ผมเลือก Accord เพราะคุ้มค่ากับสมรรถนะและไม่ต้องซ่อมบ่อยเหมือนที่คิด”
ในแง่การใช้งานจริง ผู้ที่สนใจซื้อ Honda Accord ควรตรวจสอบ ประวัติการบำรุงรักษา และ การรับประกันจากศูนย์บริการ เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นตามมา พร้อมทั้งเปรียบเทียบราคามือสองกับรุ่นอื่นที่มีคุณสมบัติใกล้เคียงกัน เช่น Toyota Camry หรือ Nissan Teana เพื่อให้ได้ความคุ้มค่ามากที่สุด รวมถึงติดตามรีวิวและฟีดแบคจากผู้ใช้จริงในไทยเพื่อประกอบการตัดสินใจ
โดยสรุป Honda Accord ยังคงเป็นตัวแทนซีดานญี่ปุ่นที่โดดเด่นในตลาดไทย ด้วยความลงตัวระหว่าง เทคโนโลยีที่ทันสมัย, สมรรถนะที่ดี, และ ความน่าเชื่อถือที่ได้รับการพิสูจน์มาแล้ว ซึ่งหากวางแผนซื้อและดูแลอย่างเหมาะสม Accord สามารถเป็นพาหนะที่คุ้มค่าตลอดระยะเวลาการใช้งานอย่างแท้จริง
การบำรุงรักษาและซ่อมบำรุง Honda Accord: เคล็ดลับใช้งานรถให้อึดทน
เมื่อพูดถึง การดูแลรักษาและซ่อมบำรุง Honda Accord ทั้งรุ่นเก่าและใหม่ สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจรายละเอียดการบำรุงรักษาที่เหมาะสมกับแต่ละส่วนของรถยนต์ จากประสบการณ์กว่า 10 ปีในวงการยานยนต์ ผมขอแบ่งปันเคล็ดลับจากสถานการณ์จริงที่จะช่วยให้เจ้าของ Accord ทุกคนสามารถยืดอายุการใช้งานของรถได้อย่างสูงสุด
เริ่มตั้งแต่การ ตรวจเช็กระยะ ซึ่ง Honda แนะนำให้เจ้าของรถทำทุก ๆ 10,000 กิโลเมตร หรือ 6 เดือน เพื่อเช็กทั้งระดับน้ำมันเครื่อง, น้ำหล่อเย็น, และสภาพเบรก ในรุ่นเก่าที่อายุมากกว่า 10 ปี ควรเน้นย้ำการตรวจสภาพสายพานไทม์มิ่ง (Timing belt) และหัวเทียนเพื่อป้องกันการเสียหายรุนแรง ในขณะที่รุ่นใหม่ ๆ อย่าง Accord Hybrid จะต้องให้ความสนใจกับการบำรุงรักษาระบบแบตเตอรีและอินเวอร์เตอร์ที่แตกต่างจากเครื่องยนต์แบบดั้งเดิม
สำหรับ การดูแลเครื่องยนต์และระบบส่งกำลัง ผมแนะนำให้ใช้น้ำมันเครื่องที่ผ่านการรับรองมาตรฐานตามคู่มือรถ เช่น 0W-20 สำหรับเครื่องยนต์เบนซิน รุ่นใหม่ เพื่อประหยัดน้ำมันและช่วยลดการสึกหรอ นอกจากนี้การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์อัตโนมัติอย่างสม่ำเสมอก็มีผลต่อความนุ่มนวลในการขับขี่ และลดปัญหาเกียร์ลื่นในอนาคต
ส่วน เทคโนโลยีภายในรถ การอัพเดตระบบซอฟต์แวร์และตรวจเช็กเซ็นเซอร์ต่าง ๆ อย่างกล้องจอดรถหรือระบบเตือนชน (Collision Mitigation Braking System: CMBS) ในรุ่นใหม่จะช่วยให้รถทำงานเต็มประสิทธิภาพและปลอดภัย
เมื่อพูดถึงการบริการที่เชื่อถือได้ ในประเทศไทย ศูนย์บริการ Honda ต่างจังหวัดและกรุงเทพฯ เช่น Honda CRV Service Center และศูนย์ฮอนด้าในเครือ บริษัท A.P. Honda มีมาตรฐานการซ่อมและอะไหล่แท้พร้อมรับประกัน นอกจากศูนย์บริการแล้ว ตัวเลือกซื้ออะไหล่ทดแทนที่มีคุณภาพจากบริษัทตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับอนุญาตก็ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้อย่างมาก โดยเฉพาะในการดูแล Accord รุ่นปี 2010 ขึ้นไป ซึ่งอะไหล่มือสองสภาพดีจากตลาดรถยนต์ในกรุงเทพฯ เป็นอีกทางเลือกที่ได้รับความนิยมในกลุ่มผู้ขับขี่หลายคน
| ส่วนประกอบ | ช่วงการตรวจเช็ก | คำแนะนำ |
|---|---|---|
| เครื่องยนต์ (น้ำมันเครื่อง) | ทุก 10,000 กม. หรือ 6 เดือน | ใช้น้ำมันมาตรฐาน API SN หรือสูงกว่า, เปลี่ยนไส้กรองน้ำมันเครื่องพร้อมกัน |
| สายพานไทม์มิ่ง | ทุก 60,000 กม. ในรุ่นเก่า | เปลี่ยนตามกำหนดเพื่อป้องกันสายพานขาดเสียหายเครื่อง |
| น้ำมันเกียร์อัตโนมัติ | ทุก 40,000 กม. | ใช้ที่ผ่านการรับรองจาก Honda เพื่อยืดอายุเกียร์ |
| ระบบไฟฟ้าและเซ็นเซอร์ | ตรวจเช็กทุก 20,000 กม. | อัพเดตซอฟต์แวร์และเปลี่ยนเซ็นเซอร์ที่ชำรุดทันที |
เรื่องเล่าจากผู้ใช้ Accord รุ่นปี 2008 รายหนึ่ง เล่าว่า “การเปลี่ยนสายพานไทม์มิ่งตามคำแนะนำของศูนย์บริการทำให้เครื่องยนต์ยังทำงานได้ลื่นไหลและไม่เกิดปัญหาใหญ่ในระยะยาว” นี่คือความจริงที่ชี้ให้เห็นว่า การดูแลและบำรุงรักษาตามคำแนะนำอย่างสม่ำเสมอคือกุญแจสำคัญ ที่ช่วยให้รถยนต์ของคุณยังคงไว้ซึ่งความคุ้มค่าและสมรรถนะที่ดี
อ้างอิงจากข้อมูลคู่มือบริการรถยนต์ Honda Accord และบทความจากสมาคมวิจัยและพัฒนายานยนต์แห่งประเทศไทย (Thai Automotive Research & Development Association - TARDA) นำมาประยุกต์ใช้กับตลาดไทยเพื่อให้ข้อมูลมีความถูกต้องและน่าเชื่อถือที่สุด
ความคิดเห็น